จัดทำโดย
นายณัฐภพ ขอสีกลาง เลขที่ 26
นายทิวัตถ์ เมืองแดง เลขที่ 27
นักเรียนชั้น ม.6/1

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คำแถลงการของโป๊ป

"เราได้ยินแล้ว พี่น้องที่รักยิ่ง และท่านก็ได้ยินสิ่งที่เราไม่สามารถจะกล่าวซ้ำโดยปราศจากความเศร้าสลดอย่างสุดซึ้ง ด้วยความเจ็บปวดอย่างยิ่งและด้วยความทุกข์ทรมานอย่างสุดแสน ว่าพี่น้องคริสต์ของเรา สมาชิกของพระเยซูถูกโบยตีทรมาน กดขี่ และถูกทำให้บาดเจ็บอย่างไรบ้างในเมืองเยรูซาเลม ในแอนติออค และเมืองอื่นๆ ทางตะวันออก พี่น้องร่วมสายโลหิตของท่านเอง เพื่อนของท่าน สมัครพรรคพวกของท่าน เพราะท่านทั้งหลายล้วนเป็นบุตรของพระเยซูด้วยกัน และนับถือศาสนาเดียวกัน กำลังตกอยู่ภายใต้นายคนอื่นในบ้านที่เขาสืบมรดกด้วยตนเองมา หรือไม่ก็ถูกขับออกจากบ้านนั้นๆ หรือมิฉะนั้นก็ต้องเร่ร่อนมาเป็นขอทานในหมู่พวกเรานี้ หรือที่ร้ายที่สุดยิ่งกว่านั้นก็คือ เขาเหล่านั้นได้ถูกโบยตี ถูกจับไปขายเป็นทาส และขายทอดตลาดในดินแดนของเขานั่นเอง เลือดของคริสต์ซึ่งได้รับยกโทษบาปโดยโลหิตของพระเยซูได้หลั่งไหล และเนื้อของคริสต์ซึ่งเกี่ยวพันกับเนื้อพระเยซู ก็ได้ตกอยู่ภายใต้ความเสื่อมทรามในคุณค่าและความเป็นทาส อย่างจะหาคำพูดใดมากล่าวพรรณนามิได้ ทุกๆ แห่งในเมืองเหล่านั้นมีแต่ความเศร้า ทุกๆ แห่งมีแต่ความทุกข์ทนหม่นไหม้ ทุกๆ แห่งมีแต่เสียงร้องโหยหวน

ข้าพเจ้าต้องพูดพร้อมๆ กับถอนใจ วัดซึ่งเคยมีพิธีทางศาสนาของพระเจ้าเฉลิมฉลองกันตั้งแต่ในยุคแรก มาบัดนี้ ต่อความเศร้าสลดของเรา ได้ถูกใช้เป็นคอกสำหรับคนเหล่านี้ ผู้ศักดิ์สิทธิ์มิได้เป็นเจ้าเมืองเหล่านี้อีกต่อไป แต่พวกเติร์กที่ต่ำช้าเลวร้ายเข้ายึดครองเหนือพี่น้องของเรา ... ปีเตอร์ ผู้ได้รับพรจากพระเจ้าได้เริ่มมาทำหน้าที่บิชอปที่แอนติออค และดูซิในวัดของท่าน ณ ที่ซึ่งพวกนอกศาสนาได้วางรากฐานความเชื่อของเขา และศาสนาคริสต์ซึ่งควรจะได้รุ่งเรืองต่อไป กลับถูกขับออกไปจากห้องวิหารที่อุทิศเพื่อพระเจ้า อาณาบริเวณซึ่งได้มอบให้เพื่อเป็นการสนับสนุนนักบุญทั้งหลายและเขตที่บรรดาขุนนางได้มอบให้เพื่อช่วยเหลือคนยากคนจน ก็กลับตกอยู่ใต้พวกทรราชที่ไม่ได้นับถือพระเจ้า ขณะเดียวกัน นายที่ร้ายกาจพวกนี้ ก็ได้ใช้ประโยชน์จากที่ทางทั้งมวลไป ตามความต้องการของเขา บรรพชิตของพระผู้เป็นเจ้าได้ถูกบดขยี้ลงกลายเป็นผงธุลี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ... น่าอับอายเกินกว่าจะกล่าวได้ ทุกแห่งล้วนถูกใช้ไปในทางที่ผิด สิ่งใดที่ยังเป็นของคริสต์และยังหลบซ่อนอยู่ ณ ที่นั้น ก็จะถูกซอกซอนขุดคุ้ยออกมาพร้อมทั้งการทรมานอย่างที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน


เกี่ยวกับนครเยรูซาเลมที่ศักดิ์สิทธิ์ พี่น้องทั้งหลาย เราไม่กล้าเอ่ยถึง เพราะความประหวั่นพรั่นกลัว และอับอายเกินกว่าจะเอ่ยปากได้ เมืองนี้ ในที่ซึ่งท่านทั้งหลายได้ซึมทราบอยู่แล้ว พระเยซูได้ทรงทนทุกข์ทรมานด้วยพระองค์เองเพื่อเราทั้งหลาย เพราะบาปของเราเรียกร้องเช่นนั้น เมืองนี้ได้ถูกลดความสำคัญลงมายังมือของคนนอกศาสนา และ ถูกดึงไปจากการรับใช้พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าได้แต่กล่าวพร้อมด้วยความอดสู ทั้งหมดนี้นับเป็นโทษานุโทษของพวกเราทั้งสิ้น ซึ่งก็ควรจะยอมรับโดยดี ใครที่กำลังรับใช้อยู่ในวิหารของพระแม่มารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ในหุบเขาแห่งโจเซฟัด ในโบสถ์ซึ่งพระนางถูกบรรจุ ณ ที่นั้น แต่ทำไมเราจะผ่านโบสถ์โซโลมอน ไม่ใช่โบสถ์ของพระผู้เป็นเจ้า ในที่นี้ซึ่งพวกชาติป่าเถื่อนได้นำรูปเคารพที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งกฎของมนุษย์และพระเจ้ามาทำการเคารพบูชาไปเสีย เกี่ยวกับวิหารที่ฝังพระศพพระเยซูเล่า เราอยากจะเว้นไม่กล่าวถึง ในเมื่อท่านหลายคนได้เห็นมากับตาตนเองแล้วว่า มีการกระทำที่บัดสีอะไรเกิดขึ้นในนั้นบ้าง

พวกเตอร์กได้ฉกฉวยเอาสิ่งของที่เป็นบรรณาการที่ท่านได้พากันนำไปถวายเป็นการกุศลกันมากมายไปเสียโดยพลการ และยังได้ดูถูกเยาะเย้ยศาสนาของท่านทั้งหลายอย่างหนัก และ บ่อยครั้งอีกด้วย และ ณ ที่นั้น ข้าพเจ้าพูดในสิ่งที่ท่านก็รู้อยู่แล้ว เป็นที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงพักผ่อน ที่ซึ่งพระองค์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อเรา ที่ซึ่งพระองค์ได้ถูกนำเข้าบรรจุ สถานที่ซึ่งมีค่ายิ่งควรจะเป็นที่ใฝ่หาและไม่มีที่ใดเสมอเหมือน ที่ซึ่งเป็นแหล่งพักบั้นปลายของพระองค์ ถึงแม้พระผู้เป็นเจ้าจะละเว้นไม่ได้แสดงปาฏิหาริย์ประจำปีก็ตาม เพราะในวันที่พระองค์ถูกตรึงกางเขน แสงสว่างในที่ฝังพระศพและรอบๆ วิหารนั้น ซึ่งได้ดับไปแล้ว กลับสว่างขึ้นมาอีกด้วยโองการของพระเป็นเจ้า ผู้ที่ไม่รู้สึกสะเทือนใจไปด้วยปาฏิหาริย์นี้ จะต้องมีจิตใจที่กระด้างเยี่ยงหิน เชื่อข้าพเจ้าเถิด ผู้นั้นจะต้องมีความเป็นอมนุษย์ไม่มีความรู้สึก มีดวงใจที่ไม่ยอมหันมาศรัทธา

ในเมื่อได้เห็นพระเกียรติคุณของพระผู้เป็นเจ้าแสดงออกมาแล้วนี้ และถึงกระนั้นพวกนอกศาสนาเหล่านี้ ได้เห็นสิ่งเดียวกันกับที่พวกคริสต์เห็นและก็ยังไม่ได้หันเหมาจากทิศทางของเขา เขาเหล่านั้นแน่นอนมีความกลัว แต่ไม่ได้เปลี่ยนมาศรัทธาหรือแม้แต่ประหลาดใจ ก็เพราะจิตใจของเขามีความมืดมิดปกคลุมอยู่ ด้วยความทุกข์ใดๆ ที่เขาได้กระทำผิดต่อท่านผู้ซึ่งได้กลับมาแล้วและมาอยู่ ณ ที่นี้ ท่านก็ซึมทราบแก่ใจท่านดี ท่านผู้ซึ่งได้พลีเนื้อและเลือดของท่านเพื่อพระผู้เป็นเจ้า

สิ่งนี้ พี่น้องที่รัก ที่เราจะพูดต่อไป ซึ่งเราอาจจะอ้างท่านเป็นพยานคำพูดของเราได้ ความทุกข์ยากของพี่น้องของเรา และความเสื่อมค่าแห่งสถานศักดิ์สิทธิ์ มีปรากฏมากกว่าที่เราจะพูดถึงแต่ละแห่งได้ เพราะเราต้องสลดใจไปพร้อมด้วยน้ำตา เสียงคร่ำครวญ เสียงถอนหายใจ และเสียงสะอื้น เราได้แต่ร้องไห้และโอดครวญ พี่น้องทั้งหลายทำนองเดียวกับท่านผู้เขียนคัมภีร์ของศาสนายิวในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเรา เรามีแต่ความเศร้าหมองไร้ความสุข และในตัวพวกเรานี้ก็เป็นการแสดงว่า คำทำนายนั้นเป็นความจริง

พระผู้เป็นเจ้า ชนชาติที่จะเข้ามารับช่วงมรดกท่าน วิหารศักดิ์สิทธิ์ท่านจะถูกทำให้สกปรก เขาจะปล่อยให้เยรูซาเลมกลายเป็นซากปรักหักพังซากศพของผู้รับใช้ของท่านจะถูกปล่อยให้เป็นอาหารของนกจากสวรรค์ และเนื้อของนักบุญของท่าน ก็กลายเป็นอาหารของสัตว์บนพื้นดิน เลือดของเขาทั้งหลายซึ่งได้หลั่งลงดุจสายน้ำทั่วเยรูซาเลม และจะไม่มีใครเหลืออยู่ที่จะเป็นผู้ฝังเขาเหล่านี้ ความเศร้ามีแก่พวกเราทุกคน พี่น้องทั้งหลายเราผู้ซึ่งได้กลายเป็นผู้รับผิดชอบต่อเพื่อนของเรา เป็นผู้ที่ถูกถากถางเยาะเย้ยแก่พวกเขาอนุญาตให้เราอย่างน้อยก็ได้เศร้าโศกไปพร้อมกับน้ำตา และมีความสงสารแก่พี่น้องของเรา เราผู้ซึ่งเป็นที่เยาะเย้ยของคนทั้งมวล และร้ายยิ่งกว่านั้น ให้เราได้แสดงความเศร้าสลดไปกับความเสื่อมค่าอย่างใหญ่หลวงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนนี้ที่ซึ่งเราได้สงวนไว้ให้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ในที่ซึ่งแม้เพียงย่างก้าวเดียว ทั้งร่างกายและวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าก็จะประทานเกียรติและพร

ที่ซึ่งได้มีโอกาสปรากฏตัวที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระมารดาพระผู้เป็นเจ้า ที่ซึ่งเป็นที่ประชุมของเหล่าสาวกและได้รองรับเลือดที่ได้หลั่งไว้ของผู้พลีชีพเพื่อศาสนาทั้งหลาย ก้อนหินเหล่านั้นศักดิ์สิทธิ์เพียงใด ก้อนหินที่ได้สวมศีรษะของท่าน สตีเฟนผู้พลีชีพเพื่อศาสนาคนแรก น่าเป็นสุขเพียงใด จอห์น เดอะแบปติสต์ น้ำของแม่น้ำจอร์แดนซึ่งช่วยให้ท่านได้ล้างบาปของพระเยซู ลูกๆ ของอิสราเอล ผู้ซึ่งได้รับการนำออกจากอียิปต์ และผู้ที่เห็นท่านนำเขาข้ามทะเลแดง และเข้ามายึดดินแดนนี้ด้วยน้ำมือของเขา โดยมีพระเยซูเป็นหัวหน้าพวกเขา ขับไล่พวกเจบูไซท์ และคนอื่น ๆ ที่พำนักอยู่แถบนี้ออกไป และได้เข้าครอบครองเยรูซาเลมบนพื้นพิภพนี้ ซึ่งเป็นเสมือนภาพเหมือนของเยรูซาเลมบนสรวงสวรรค์

เรากำลังพูดอะไรกันอยู่? ขอให้ฟังและรู้ไว้ ท่านผู้คาดเครื่องหมายอัศวินอยู่ผู้ซึ่งมีความหยิ่งผยองด้วยความทะนง ท่านโกรธเคืองพี่น้องของท่านเอง และเชือดเฉือนกันเป็นชิ้นๆ ทั้งนี้ไม่ใช่ลักษณะทหารของพระเยซูที่ถูกต้อง ซึ่งนับเป็นการแตกแยกหมู่ฝูงแกะของท่านผู้ไถ่บาป ศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ได้ธำรงความเป็นทหารไว้เพื่อศาสนาเอง เพื่อให้ปกปักรักษาคนของศาสนา แต่ท่านทั้งหลายทำให้ศาสนาตกต่ำเป็นที่เจ็บช้ำยิ่ง ขอให้เราสารภาพความจริงในฐานะที่เราควรจะทำหน้าที่ทูต เป็นความจริง ท่านไม่ได้ใช้ชีวิตตามที่ควร ท่านผู้กดขี่เด็ก ผู้ปล้นสะดมแม่หม้าย ท่านผู้มีความผิดฐานฆาตกร ลักขโมยสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ ปล้นสิทธิของผู้อื่น ท่านผู้ซึ่งคอยรับสิ่งตอบแทนจากเหล่าโจร โดยการหลั่งเลือดของคริสต์ เหมือนนกแร้งที่ได้ซากศพที่คละคลุ้ง เป็นความจริงที่ว่า นี่เป็นสิ่งที่เลวที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ห่างไกลพระผู้เป็นเจ้าอย่างยิ่ง

ถ้าท่านปรารถนาจะระมัดระวังวิญญาณของท่านเอง ก็จงปลดเครื่องหมายอัศวินเหล่านี้เสีย หรือมิฉะนั้นก็จงเดินหน้าอย่างกล้าหาญในฐานะอัศวินของพระเยซู และรีบรุดไปอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ เพื่อไปปกป้องศาสนาทางตะวันออก เพราะจากแหล่งนี้เองที่ความชื่นชมทั้งมวลของการไถ่บาปได้ปรากฏขึ้นมา ที่ซึ่งได้นำเอาคำสั่งสอนที่ศักดิ์สิทธิ์ของคัมภีร์มามอบให้ท่าน เราขอพูดอย่างนี้พี่น้องทั้งหลาย ท่านควรจะยั้งมือที่เป็นฆาตกรของท่านเสียจากการทำลายพี่น้องของท่านเอง และในนามของญาติที่นับถือศาสนาเดียวกัน ควรจะเข้าสู้กับพวกนอกศาสนานี้ด้วยตัวท่านเองภายใต้พระเยซูคริสต์หัวหน้าของเรา ขอให้ท่านต่อสู้เพื่อเยรูซาเลมของท่านในแนวรบของคริสต์ แนวรบซึ่งไม่มีใครจะเอาชนะได้ จะได้รับความสำเร็จเสียยิ่งกว่าลูกๆ ของเจคอป ที่ได้เคยต่อสู้มา และขอท่านจงกวัดแกว่งดาบและขับไล่เติร์กเหล่านี้ออกไป เติร์กซึ่งร้ายกาจยิ่งกว่าพวกเจบูไซท์ ซึ่งเคยอยู่ในแถบนี้ และขอให้ท่านคิดว่า เป็นความดีงามที่จะตายเพื่อพระเยซูในเมืองซึ่งพระองค์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อเรา แต่ถ้าท่านต้องเสียชีวิตในการนี้

จงแน่ใจว่าได้ตายในระหว่างทางก็ได้ผลเท่ากัน ถ้าพระเยซูได้พบว่าท่านอยู่ในกองทหารของพระองค์ พระเจ้าจะทรงจ่ายค่าตอบแทนด้วยเงินจำนวนเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นในชั่วโมงแรกหรือชั่วโมงที่ ๑๑ ท่านควรจะมือสั่น พี่น้องทั้งหลาย ท่านควรจะสั่น เมื่อท่านเงื้อมือซึ่งเป็นเพฌชฆาตต่อพวกคริสต์ด้วยกัน แต่มันจะเลวร้ายน้อยกว่านั้น ถ้าท่านจะแกว่งดาบของท่านต่อพวกซาระเซ็น นี่เป็นสงครามครั้งเดียวที่ถูกต้อง เพราะเป็นการกุศลที่จะเสี่ยงชีวิตของท่านเพื่อพี่น้องของท่านเอง ท่านไม่ต้องกังวลในเรื่องของวันต่อๆ ไป จงรู้ว่าผู้ที่กลัว พระเจ้าไม่ต้องการอะไร และผู้ที่ช่วยทะนุถนอมพระองค์อย่างจริงจังก็เช่นกัน ทรัพย์สินของศัตรูก็เหมือนกันจะเป็นของท่าน ในเมื่อท่านอาจจะทำลายทรัพย์สมบัติของเขาและกลับมาพร้อมด้วยชัยชนะของท่าน หรืออาจจะทำให้เป็นสีแดงด้วยเลือดของท่านเอง ท่านจะได้มาซึ่งความรุ่งเรืองที่ยั่งยืนเพื่อแม่ทัพผู้นี้ ผู้ที่ท่านควรจะต่อสู้ให้ เพราะท่านผู้นี้ไม่มีอำนาจหรือทรัพย์สมบัติที่จะตอบแทนท่าน หนทางนั้นสั้น งานก็ไม่มากแต่อย่างไรก็ตาม จะตอบแทนท่านด้วยมงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรย เราขอพูดในนามของศาสนา จงคาดดาบเถิดท่าน ท่านผู้มีอำนาจ คาดดาบของท่าน พวกท่านทุกคนเราขอพูดดังนี้ และจงเป็นลูกที่กล้าหาญ เพราะเป็นการดีสำหรับท่านที่จะสิ้นชีวิตในสนามรบ แทนที่จะเพียงแต่นั่งมองเผ่าพันธุ์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของท่านอยู่ด้วยความเศร้า อย่าให้ทรัพย์สินหรือเสน่ห์ของภรรยาท่านดึงดูดท่านไม่ให้ท่านไป หรืออย่าให้การสืบสวนเรื่องราวบางประการ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นต่อไปมาเป็นเรื่องขัดขวาง และดึงท่านไว้ให้คงอยู่ ณ ที่นี้"

นี่คือสุนทรพจน์ ที่หลั่งไหลออกมาจากปากของประมุขทางศาสนานิกายคาทอลิก ซึ่งถือกันว่าเป็นสุนทรพจน์ยุให้คนบ้าเลือดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งมนุษยชาติ ฟังดูแล้ว แทบไม่น่าเชื่อว่าผู้ที่ซ่อนร่างอยู่ในเครื่องครองอันประกาศตัวเป็นนักพรตจะหลั่งคำพูดที่แสดงเจตนามุ่งร้ายหมายล้างต่อเพื่อนร่วมโลกออกมาได้ถึงเพียงนี้ เพราะนั่นแสดงถึงวิญญาณอาฆาตแค้นอันไร้สติโดยสิ้นเชิง ซึ่งมโนธรรมในทางสันติที่จะช่วยยับยั้งหักห้าม ... แต่สำหรับนักปลุกระดมให้คนบ้าเลือดแล้ว สุนทรพจน์ของเออร์บันที่ ๒ นี้ก็ถือกันว่ายอดเยี่ยมที่สุด คือพอขาดคำก็มีผู้คนเป็นจำนวนนับพันขานรับด้วยเสียงโห่ร้องกึกก้องว่า เป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า และสมัครไปรบ ซึ่งก็เท่ากับสมัครไปเสี่ยงตายทันที ที่นับว่าเป็นจุดเด่นในประวัติศาสตร์ก็คือ บิชอป แห่ง พีย์ ลุกขึ้นมาจากที่นั่งตามตำแหน่งในที่ประชุม แล้วคุกเข่าลงต่อหน้าบัลลังก์ของเออร์บัน ประกาศขออนุญาตไปรบ

พฤติการณ์อันนี้ จะเป็นไปตามแผนตามโปรแกรมที่จัดวางกันไว้หรือไม่ ก็ไม่อาจจะทราบได้ สิ่งที่เราท่านทั้งหลายจะพึงทราบได้อย่างชัดเจนและใช้เป็นพยานยืนยันได้ก็คือ นักบวชของเขา สามารถจับดาบฟาดฟันประหัตประหารผู้คนได้ โดยไม่มีอะไรที่จะต้องสะทกสะท้านหวั่นเกรง ดังนั้นหากท่านผู้ใดจะนึกว่านักพรตคริสต์คู่เคียงเรียงหน้าได้กับนักพรตของพระพุทธศาสนาแล้ว ขอได้โปรดรู้ไว้เถอะว่า นั่นคือ ความโง่เขลาอย่างสาหัสสากรรจ์ของตนเอง เพราะนักพรตของพระพุทธศาสนานั้น อย่าว่าแต่จะจับดาบวิ่งลงไปในสนามรบเลย แม้สัตว์เดียรัจฉานประเภทมดแมลง พระพุทธองค์ก็ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้เป็นข้อห้าม มิให้ฆ่ามิให้ประหาร แต่นักพรตของเขา สันตะปาปา ซึ่งประกาศว่าเป็นตัวแทนของพระเจ้าเอง ได้ออกปากยั่วยุผลักไสให้ออกไปฆ่าคน อย่างไม่ละอายแก่ใจแต่ประการใด และนักพรตของเขาก็โลดแล่นออกไปด้วยอาการอันลำพอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น